ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
| |||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
ข้อมูลจังหวัด กาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 12 ล้านไร่ หรือ 19,483 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเทือกเขาสูง โดยมีแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย ที่ไหลขนานลงมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ความเป็นมาของกาญจนบุรีเท่าที่มีการค้นพบหลักฐานนั้น ย้อนไปได้ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบเครื่องมือหินในบริเวณบ้านเก่า อำเภอเมืองฯ ล่วงมาถึงสมัยทวารวดี ซึ่งมีหลักฐานคือซากโบราณสถานที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์ลักษณะเดียวกับจุลประโทนเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม บ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี และเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งค้นพบโบราณวัตถุ เช่น พระพิมพ์สมัยทวารวดีจำนวนมาก สืบเนื่องต่อมาถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-18 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบคือปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะแบบขอม สมัยบายน ความเป็นมาของกาญจนบุรียังปรากฏในพงศาวดารเหนือว่า กาญจนบุรีเป็นเมืองขึ้นของสุพรรณบุรีในสมัยสุโขทัย ครั้นมาถึงสมัยอยุธยา กาญจนบุรีก็มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญจนกระทั่งถึงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการจัดรูปแบบการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล กาญจนบุรีถูกโอนมาขึ้นกับมณฑลราชบุรี และยกฐานะเป็นจังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467 เหตุการณ์ที่ทำให้กาญจนบุรีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกในประเทศไทย ไปยังเมืองทันบีอูซายัตในพม่า โดยเกณฑ์เชลยศึกและแรงงานจำนวนมากมาเร่งสร้างทางรถไฟอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความเป็นอยู่ที่ยากแค้นและโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า ซึ่งภาพและเรื่องราวของความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญ อำเภอพนมทวน อำเภอไทรโยค อำเภอสังขละบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอทองผาภูมิ อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา ข้อมูลทั่วไป กาญจนบุรีคือดินแดนแห่งธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่า พรรณไม้ โถงถ้ำ น้ำตก และประเพณีวัฒนธรรมอันหลากหลายของผู้คนหลากเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออารี ทั้งไทย พม่า มอญ ปากะญอ (กะเหรี่ยง) ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น กาญจนบุรียังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีอนุสรณสถานหลายแห่งปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐาน เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ฯลฯ ด้วยความหลากหลายของพื้นที่และเรื่องราวที่สั่งสมอยู่ในจังหวัดชายแดนตะวันตกแห่งนี้ กาญจนบุรีจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ทุกวัย และทุกฤดูกาล จังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 12 ล้านไร่ หรือ 19,483 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเทือกเขาสูง โดยมีแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย ที่ไหลขนานลงมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ความเป็นมาของกาญจนบุรีเท่าที่มีการค้นพบหลักฐานนั้น ย้อนไปได้ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบเครื่องมือหินในบริเวณบ้านเก่า อำเภอเมืองฯ ล่วงมาถึงสมัยทวารวดี ซึ่งมีหลักฐานคือซากโบราณสถานที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์ลักษณะเดียวกับจุลประโทนเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม บ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี และเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งค้นพบโบราณวัตถุ เช่น พระพิมพ์สมัยทวารวดีจำนวนมาก สืบเนื่องต่อมาถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-18 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบคือปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะแบบขอม สมัยบายน ความเป็นมาของกาญจนบุรียังปรากฏในพงศาวดารเหนือว่า กาญจนบุรีเป็นเมืองขึ้นของสุพรรณบุรีในสมัยสุโขทัย ครั้นมาถึงสมัยอยุธยา กาญจนบุรีก็มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญจนกระทั่งถึงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการจัดรูปแบบการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล กาญจนบุรีถูกโอนมาขึ้นกับมณฑลราชบุรี และยกฐานะเป็นจังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467 เหตุการณ์ที่ทำให้กาญจนบุรีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกในประเทศไทย ไปยังเมืองทันบีอูซายัตในพม่า โดยเกณฑ์เชลยศึกและแรงงานจำนวนมากมาเร่งสร้างทางรถไฟอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความเป็นอยู่ที่ยากแค้นและโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า ซึ่งภาพและเรื่องราวของความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญ อำเภอพนมทวน อำเภอไทรโยค อำเภอสังขละบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอทองผาภูมิ อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา ทิปส์ท่องเที่ยว เที่ยวเมืองกาญจน์ได้ทุกฤดู แต่เที่ยวหน้าฝนจะได้ชื่นชมผืนป่าเขียวสด น้ำตกก็หลั่งไหลชุ่มชื่นสวยงาม ยิ่งถ้าไปปลายฝน ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะได้ลิ้มรสอาหารที่ทำจากเห็ดโคนสดๆ ซึ่งเป็นเมนูเด่นของกาญจนบุรี ในเขตอำเภอทองผาภูมิ-สังขละบุรีที่อุดมไปด้วยผืนป่า โถงถ้ำ น้ำตก และสายน้ำ ไม่เพียงเป็นแหล่งธรรมชาติน่าเที่ยว แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เช่น ขี่เอทีวี โรยตัวผ่านผาน้ำตก ล่องแก่ง โหนรอกผ่านหุบเขา บ้านหนองขาว อำเภอท่าม่วง เป็นชุมชนน่ารัก มีเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เข้าไปเที่ยวที่นี่ ควรพักค้างคืนที่บ้านกลางทุ่ง ออร์กานิก โฮม ซึ่งยึดคอนเซ็ปต์การใช้ชีวิตในความสดสะอาดของธรรมชาติแวดล้อม กินผักสด สูดอากาศบริสุทธิ์ และรื่นรมย์กับการชมวิถีชีวิตน่ารักๆของคนบ้านหนองขาว ที่พัก จังหวัดกาญจนบุรีมีโรงแรมหลายระดับ รวมทั้งยังมีเรือนแพ รีสอร์ต และเกสต์เฮาส์มากมายตามแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ เช่น ในอำเภอไทรโยค ทองผาภูมิ และสังขละบุรี ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง นอกจากนี้ กาญจนบุรียังมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย เช่น อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติไทรโยค ฯลฯ สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดกาญจนบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการผจญภัย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ โบราณสถานพงตึกและวัดดงสัก เจดีย์ยุทธหัตถี สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร บ้านหนองขาว บ้านมอญ อำเภอสังขละบุรี อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติถ้ำลำคลองงู ฯลฯ กิจกรรมท่องเที่ยว กาญจนบุรีมีกิจกรรมท่องเที่ยวโดดเด่นหลายรูปแบบ เช่น ล่องแพชมความงามไปตามแม่น้ำแคว การล่องแก่งด้วยแพไม้ไผ่ ขี่ช้างชมธรรมชาติ พายคายัค ขี่จักรยานเสือภูเขา สำรวจถ้ำ ฯลฯ อาหารและเครื่องดื่ม จังหวัดกาญจนบุรีมีสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่า มีแม่น้ำลำธาร รวมทั้งเขื่อนหลายแห่ง อาหารของที่นี่จึงใช้วัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ สะอาด และปลอดภัย กาญจนบุรีมีอาหารรสเด็ดขึ้นชื่อมากมาย ที่โดดเด่นคืออาหารที่ปรุงจากผักพื้นบ้าน เช่น เห็ดโคน ร้านอาหารในกาญจนบุรีจะมีเมนูเห็ดโคนอร่อยๆ ให้เลือกลิ้มรส เช่น แกงป่าเห็ดโคน เป็นต้น อาหารที่ปรุงจากปลาแม่น้ำก็เป็นเมนูเด่นที่พลาดไม่ได้ ปลาที่จับได้จากแม่น้ำแควและแม่น้ำสาขาย่อยขึ้นชื่อเรื่องความสด อร่อย ไม่ว่าจะเป็นปลาคัง ปลากด ปลายี่สก ปลาแรด ฯลฯ สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศการกินแบบคึกคัก มีอาหารให้เลือกหลากหลายในที่เดียวกัน แนะนำย่านตลาดโต้รุ่ง ใกล้สถานีขนส่งกาญจนบุรี นอกจากอาหารคาวที่มีให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีนมปั่นที่คนเมืองกาญจน์เรียกว่า หมีปั่น ที่ร้านดาวเด่น เป็นเมนูขึ้นชื่อของตลาดโต้รุ่ง ไม่เพียงแค่อาหารไทย กาญจนบุรียังมีอาหารพม่าและอาหารมอญให้ลิ้มลอง โดยเฉพาะในอำเภอชายแดน เช่น สังขละบุรี หลายร้านริมน้ำและในตัวอำเภอสังขละบุรี มีอาหารพม่าต้นตำรับ อย่างแกงฮังเล และอาหารมอญ เช่น ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ให้ลองชิมกัน ร้านอาหารที่มีจานเด็ดติดดาวมีอยู่หลายแห่ง ร้านที่เด่นเรื่องอาหารปรุงจากปลาส่วนใหญ่จะอยู่ริมแม่น้ำแคว แถวๆ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สำหรับสถานบันเทิงแนวไนต์ไลฟ์นั้น ในตัวเมืองกาญจนบุรีมีผับหลายแห่งเปิดให้บริการ รวมทั้งในโรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ ก็มีผับ บาร์ ที่น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืน ช้อปปิ้ง สินค้าและของที่ระลึกจากจังหวัดกาญจนบุรีมีทั้งอัญมณี ของกิน และของใช้หลากหลายประเภท จับจ่ายกันได้ตามรสนิยม ถ้าชอบอัญมณี พลอย ไพลิน และนิล ของอำเภอบ่อพลอย มีชื่อเสียงมาแต่ไหนแต่ไร มีให้เลือกช็อปที่ร้านค้าในบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว หรือจะไปเลือกซื้อถึงถิ่นที่อำเภอบ่อพลอยก็ได้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานหัตถกรรมฝีมือชาวบ้าน ผ้าขาวม้าร้อยสีของบ้านหนองขาว คืองานฝีมือที่พลาดไม่ได้ เอกลักษณ์ของผ้าขาวม้าบ้านหนองขาวอยู่ที่สีสันฉูดฉาดบาดตาบาดใจ นอกจากผ้าขาวม้าแล้ว ชาวบ้านยังนำผ้ามาตัดเสื้อ ทำย่าม ให้เลือกซื้ออีกด้วย เฟอร์นิเจอร์ไม้จากพม่าก็เป็นของฝากชิ้นใหญ่ที่น่าสนใจ มีทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เตียง ฯลฯ ส่วนใหญ่ทำจากไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ชิงชัน ของฝากที่เป็นที่นิยมที่สุดคือของกิน มีทั้งวุ้นเส้นท่าเรือ วุ้นมะพร้าวอ่อน ทองม้วนนิ่ม มะขามกวน ฯลฯ หาซื้อได้ที่ร้านขายของฝากขนาดใหญ่ริมทางหลวงหมายเลข 323 ซึ่งมีอยู่หลายร้านด้วยกัน การเดินทาง โดยรถประจำทาง มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี กรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th กาญจนบุรีทัวร์ โทร. 0 2435 5012 ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com โดยรถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีบางกอกน้อย ทุกวัน วันละ 2 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย โทร. 0 2411 3102 ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดเส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำตกกาญจนบุรี สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th |
|||||||||||||
<< < 1  2  3  4  5  > >> |
|||||||||||||
ที่พักกาญจนบุรี |
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||