ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
| ||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
ข้อมูลจังหวัด ชลบุรี
จังหวัดชลบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 4,363 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,726,875 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 51 ของประเทศ มีชายฝั่งทะเลที่เว้าแหว่งคดโค้งสวยงาม เกิดเป็นหน้าผาหิน หาดทราย ป่าชายเลน และป่าชายหาด รวมความยาวถึง 160 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดมีความหลากหลาย ตั้งแต่ที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาทางด้านตะวันออก ที่ราบชายฝั่งทะเลตั้งแต่ปากแม่น้ำบางปะกงไปจนถึงอำเภอสัตหีบ ที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกงที่อุดมสมบูรณ์ด้วยดินตะกอน เหมาะสำหรับการทำการเกษตร และพื้นที่สูงชันและภูเขาทางตอนกลางและด้านตะวันออกของจังหวัด ไปจนถึงเกาะน้อยใหญ่อีกมากมายถึงกว่า 46 เกาะ ที่ทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติ ช่วยป้องกันคลื่นลม ทำให้ชลบุรีไม่ค่อยมีคลื่นขนาดใหญ่ ชายฝั่งของชลบุรีจึงเต็มไปด้วยท่าจอดเรือประมง และเหมาะสำหรับการสร้างท่าจอดเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ บริเวณจังหวัดชลบุรีในปัจจุบันนี้ สันนิษฐานว่ามีชุมชนอยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคทวารวดี โดยมีเมืองพระรถตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม ในปัจจุบัน เป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมของท้องถิ่นในขณะนั้น เนื่องจากที่ตั้งของเมืองมีลำน้ำสายต่างๆ หลายสาย จึงสามารถเดินทางทางน้ำไปยังชุมชนอื่นๆ เช่น เมืองศรีมโหสถ ในจังหวัดปราจีนบุรี หรือไปจนถึงอรัญประเทศได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้าผ่านเมืองพญาเร่ ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งในพื้นที่ ไปจนถึงเมืองระยองและจันทบุรีด้วย ต่อมาในสมัยสุโขทัย ชุมชนบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงได้พัฒนาขึ้นเป็นเมืองชื่อ ศรีพโล เป็นเมืองท่าชายทะเลที่มีเรือสำเภาต่างชาติ ทั้งจากจีน เวียดนาม และกัมพูชา นิยมมาจอดพักสินค้าก่อนเดินทางต่อไปยังปากแม่น้ำเจ้าพระยา และจอดพักก่อนกลับหรือข้ามอ่าวไทยไปทางใต้ ดังปรากฏว่ายังคงมีลูกหลานชาวจีนอาศัยอยู่ทั่วไปในเมืองชลบุรีจำนวนมากในทุกวันนี้ และจัดเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ส่วนกำแพงเมืองศรีพโลนั้นถูกทำลายไปในช่วงการก่อสร้างถนนสุขุมวิท หลักฐานทางโบราณคดีในพื้นที่จึงคงเหลืออยู่น้อยมากในปัจจุบัน ถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เมืองศรีพโลหมดความสำคัญลงเพราะอ่าวที่เคยเป็นฝั่งทะเลลึกตื้นเขิน เนื่องจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำเจ้าพระยา ชุมชนเมืองจึงค่อยๆ เคลื่อนย้ายลงมาทางใต้ และมาสร้างเป็นเมืองแห่งใหม่ที่บริเวณตำบลบางปลาสร้อย (เป็นที่ตั้งของเมืองชลบุรีในปัจจุบัน) ซึ่งมีสภาพชายทะเลและทำเลจอดเรือที่ดีกว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระอินทอาษา ชาวนครเวียงจันทน์ ได้พาชาวลาวจำนวนหนึ่งมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวลาวเหล่านั้นไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ระหว่างเมืองชลบุรีกับฉะเชิงเทรา และต่อมาได้จัดตั้งชุมชนขึ้นเป็นเมืองพนัสนิคม จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองพนัสนิคมและเมืองบางละมุงถูกยุบเป็นอำเภอ ขึ้นตรงต่อเมืองชลบุรี และเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรีมานับแต่นั้น จังหวัดชลบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอหนองใหญ่ อำเภอพนัสนิคม อำเภอบ้านบึง อำเภอพานทอง อำเภอบ่อทอง อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ อำเภอเกาะสีชัง และกิ่งอำเภอเกาะจันทร์ ส่วนพัทยานั้นอยู่ภายใต้การบริหารปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ เรียกว่า เมืองพัทยา โดยแยกออกจากการปกครองของอำเภอบางละมุง ข้อมูลทั่วไป จังหวัดชลบุรี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เมืองชล เป็นเมืองที่มีความสำคัญในฐานะเมืองท่า มาเป็นเวลายาวนานหลายร้อยปี จนปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังที่มีความสำคัญรองจากท่าเรือกรุงเทพ และยังเป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพาณิชย์และเศรษฐกิจของชาติ ในอดีตชายทะเลเมืองชลบุรีมีอากาศดีมาก จนถูกใช้เป็นสถานพักฟื้นผู้ป่วยและที่ตากอากาศของพระมหากษัตริย์ รวมถึงเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงหลายพระองค์ ดังปรากฏหมู่พระราชฐานอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อยู่บนเกาะสีชัง และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในปัจจุบัน ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ชลบุรีจึงมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะจังหวัดท่องเที่ยวและเมืองตากอากาศชายทะเล จนกระทั่งกลายเป็นจังหวัดที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตมากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภูมิภาค และนำรายได้เข้าสู่ประเทศจำนวนมหาศาลในทุกๆ ปีในปัจจุบัน จังหวัดชลบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 4,363 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,726,875 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 51 ของประเทศ มีชายฝั่งทะเลที่เว้าแหว่งคดโค้งสวยงาม เกิดเป็นหน้าผาหิน หาดทราย ป่าชายเลน และป่าชายหาด รวมความยาวถึง 160 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดมีความหลากหลาย ตั้งแต่ที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาทางด้านตะวันออก ที่ราบชายฝั่งทะเลตั้งแต่ปากแม่น้ำบางปะกงไปจนถึงอำเภอสัตหีบ ที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกงที่อุดมสมบูรณ์ด้วยดินตะกอน เหมาะสำหรับการทำการเกษตร และพื้นที่สูงชันและภูเขาทางตอนกลางและด้านตะวันออกของจังหวัด ไปจนถึงเกาะน้อยใหญ่อีกมากมายถึงกว่า 46 เกาะ ที่ทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติ ช่วยป้องกันคลื่นลม ทำให้ชลบุรีไม่ค่อยมีคลื่นขนาดใหญ่ ชายฝั่งของชลบุรีจึงเต็มไปด้วยท่าจอดเรือประมง และเหมาะสำหรับการสร้างท่าจอดเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ บริเวณจังหวัดชลบุรีในปัจจุบันนี้ สันนิษฐานว่ามีชุมชนอยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคทวารวดี โดยมีเมืองพระรถตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม ในปัจจุบัน เป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมของท้องถิ่นในขณะนั้น เนื่องจากที่ตั้งของเมืองมีลำน้ำสายต่างๆ หลายสาย จึงสามารถเดินทางทางน้ำไปยังชุมชนอื่นๆ เช่น เมืองศรีมโหสถ ในจังหวัดปราจีนบุรี หรือไปจนถึงอรัญประเทศได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเท้าผ่านเมืองพญาเร่ ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งในพื้นที่ ไปจนถึงเมืองระยองและจันทบุรีด้วย ต่อมาในสมัยสุโขทัย ชุมชนบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงได้พัฒนาขึ้นเป็นเมืองชื่อ ศรีพโล เป็นเมืองท่าชายทะเลที่มีเรือสำเภาต่างชาติ ทั้งจากจีน เวียดนาม และกัมพูชา นิยมมาจอดพักสินค้าก่อนเดินทางต่อไปยังปากแม่น้ำเจ้าพระยา และจอดพักก่อนกลับหรือข้ามอ่าวไทยไปทางใต้ ดังปรากฏว่ายังคงมีลูกหลานชาวจีนอาศัยอยู่ทั่วไปในเมืองชลบุรีจำนวนมากในทุกวันนี้ และจัดเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ส่วนกำแพงเมืองศรีพโลนั้นถูกทำลายไปในช่วงการก่อสร้างถนนสุขุมวิท หลักฐานทางโบราณคดีในพื้นที่จึงคงเหลืออยู่น้อยมากในปัจจุบัน ถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เมืองศรีพโลหมดความสำคัญลงเพราะอ่าวที่เคยเป็นฝั่งทะเลลึกตื้นเขิน เนื่องจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำเจ้าพระยา ชุมชนเมืองจึงค่อยๆ เคลื่อนย้ายลงมาทางใต้ และมาสร้างเป็นเมืองแห่งใหม่ที่บริเวณตำบลบางปลาสร้อย (เป็นที่ตั้งของเมืองชลบุรีในปัจจุบัน) ซึ่งมีสภาพชายทะเลและทำเลจอดเรือที่ดีกว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระอินทอาษา ชาวนครเวียงจันทน์ ได้พาชาวลาวจำนวนหนึ่งมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวลาวเหล่านั้นไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ระหว่างเมืองชลบุรีกับฉะเชิงเทรา และต่อมาได้จัดตั้งชุมชนขึ้นเป็นเมืองพนัสนิคม จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองพนัสนิคมและเมืองบางละมุงถูกยุบเป็นอำเภอ ขึ้นตรงต่อเมืองชลบุรี และเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรีมานับแต่นั้น จังหวัดชลบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอหนองใหญ่ อำเภอพนัสนิคม อำเภอบ้านบึง อำเภอพานทอง อำเภอบ่อทอง อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ อำเภอเกาะสีชัง และกิ่งอำเภอเกาะจันทร์ ส่วนพัทยานั้นอยู่ภายใต้การบริหารปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ เรียกว่า เมืองพัทยา โดยแยกออกจากการปกครองของอำเภอบางละมุง ทิปส์ท่องเที่ยว เขาชีจรรย์เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพ งดส่งเสียงดัง ปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด และไม่ควรเข้าใกล้องค์พระเกินกว่าที่กำหนด เพราะอาจเกิดอันตรายจากหินที่อาจร่วงหล่นลงมาได้ เรือหลวงจักรีนฤเบศรที่ฐานทัพเรือสัตหีบเปิดให้เยี่ยมชมเฉพาะคนไทย ตั้งแต่เวลา 09.0017.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ งดสูบบุหรี่ ห้ามนำกระเป๋าสัมภาระ อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง กล้องวิดีโอ รวมทั้งห้ามพกอาวุธและวัตถุอันตรายขึ้นบนเรือโดยเด็ดขาด ที่พัก จังหวัดชลบุรีมีโรงแรมตั้งแต่ขนาดใหญ่ถึงขนาดเล็ก รวมทั้งมีรีสอร์ตและเกสต์เฮาส์ จำนวนมากทั่วไปในอำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ อำเภอเมืองฯ อำเภอศรีราชา และอำเภอเกาะสีชัง โดยเฉพาะบริเวณริมหาดต่างๆ เช่น หาดบางแสน หาดพัทยา และหาดจอมเทียน ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของที่พักและที่ตั้ง บนเกาะขามใหญ่ อำเภอเกาะสีชัง และเกาะล้าน อำเภอบางละมุง มีที่พักแบบโฮมสเตย์ ดำเนินการโดยชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมง ที่ได้รวมกลุ่มกันจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยยังคงรูปแบบวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสอย่างใกล้ชิด โฮมสเตย์เหล่านี้มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพง สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดชลบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมืองฯ ที่น่าสนใจ เช่น อ่างศิลา เขาสามมุก หาดบางแสน สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เกาะสีชัง เขาชีจรรย์ ฯลฯ กิจกรรมท่องเที่ยว จังหวัดชลบุรีมีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมายและหลากหลายรูปแบบ เช่น เที่ยวชมและนมัสการพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา พระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาที่เขาชีจรรย์ เที่ยวสวนเสือศรีราชา สวนสัตว์เปิดเขาเขียวและไนต์ซาฟารี เล่นน้ำทะเล เดินเล่นชายหาด ขี่จักรยานท่องเที่ยว ขับรถชมทิวทัศน์บนถนนเลียบชายทะเล ฯลฯ อาหารและเครื่องดื่ม อาหารการกินในจังหวัดชลบุรีมีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารตามสั่งและอาหารจานเดียว โดยเฉพาะอาหารทะเลนานาชนิด สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารในตัวเมือง ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และในตลาดสด มีอาหารพื้นเมืองหลายเมนูให้ลองชิม สำหรับสถานบันเทิงแนวไนต์ไลฟ์นั้น ในตัวเมืองชลบุรีมีผับหลายแห่งเปิดให้บริการ รวมทั้งในโรงแรม รีสอร์ตส่วนใหญ่ ก็มีผับ บาร์ ที่น่าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมฟังดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืน ช้อปปิ้ง ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าของฝากประจำจังหวัดให้เลือกซื้อตามความชอบ ที่ไม่น่าพลาดคือสินค้าโอทอป ซึ่งมีทั้งงานศิลปหัตถกรรมประจำท้องถิ่นและผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาแปรรูปได้อย่างน่าสนใจ การเดินทาง โดยรถประจำทาง มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกหรือเอกมัย ถนนสุขุมวิท และสถานีขนส่งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com โดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดชลบุรีทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง-3 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th |
||||||||||
<< < 1  2  3  4  > >> |
||||||||||
ที่พักชลบุรี |
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||
|
||||||||||