ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
|
|
|
|
กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ
|
|
ที่เที่ยวบึงกาฬ > อำเภอบึงกาฬ > วัดโพธาราม |
|
|
วัดโพธาราม |
|
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ หมู่ ๕ ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองชึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ บึงกาฬ บึงกาฬ 3800 |
|
|
|
|
|
รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว |
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เป็นวัดที่มีความสำคัญเพราะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบึงกาฬ คือ หลวงพ่อพระใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโลหะปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ฟุต 4 นิ้ว สูง 7 ฟุต เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จากประวัติตามคำบอกเล่านั้น เมื่อประมาณสองร้อยกว่าปีก่อน ผู้คนแถบนี้เป็นผู้อพยพย้ายถิ่นมาจากเมืองยศที่ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร มาตั้งถิ่นฐานทำไร่ทำนาบริเวณแถบนี้ ซึ่งตอนนั้นเป็นป่าทึบมีเถาวัลย์ปกคลุม ชาวบ้านจึงช่วยกันถางป่าบริเวณนี้จนพบพระพุทธรูปองค์หนึ่งและตั้งชื่อว่าหลวงพ่อพระใหญ่ตามขนาดที่ใหญ่โตขององค์พระนั่นเอง งานสักการะหลวงพ่อพระใหญ่ประจำปี ประชาชนในสมัยก่อนมักจะมาขอพรจากหลวงพ่อ ให้ช่วยเมตตา ปกปักรักษา และ ป้องกันอันตรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้หมดไป และก็ได้สมดังความปรารถนาตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีการจัดงานสมโภชประจำปีขึ้น ปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อได้เมตตากรุณาตลอดมา โดยได้ปฎิบัติสืบต่อกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน ดังนี้ งานครั้งที่ 1 จะจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 3 จะทำบุญข้าวจี่ พร้อมกับปราสาทผึ้ง 2 หลังเพื่อสักการะหลวงพ่อ งานครั้งที่ 2 ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีและมีพุทธบริษัทจากทั่วทุกสารทิศมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก งานนี้จะจัดขึ้นในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี โดยมีพิธีสรงน้ำหลวงพ่อพระใหญ่ ตามปกติแล้วงานครั้งที่ 2 มักจะจัดหลังวันมหาสงกรานต์ 1 สัปดาห์และมักจะตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อ 1.เมื่อครั้งมีสงครามอินโดจีน มีแสงสว่างจ้ากว่าแสงตะเกียงเจ้าพายุปรากฏขึ้นและลอยออกจากโบส์วัดบ้านท่าไคร้ข้ามไปยังบ้านปากบึง ฝั่งประเทศลาว จากนั้นก็ข้ามกลับมาที่เดิมและดับลงที่โบสถ์ 2.ราวปี พ.ศ. 2490 ได้มีการรื้อซากโบสถ์เก่าเพื่อสร้างใหม่ ช่างและคนงานทั้งหมดล้วนเป็นชาวญวน ระหว่างที่ช่างและคนงานกำลังขุดดินเพื่อลงรากเสาเข็มนั้นก็พบกับพระพุทธรูปองค์เล็กๆจำนวนมากหลายพันองค์ คนงานเหล่านั้นจึงได้หยิบติดตัวไปโดยไม่ได้บอกใครเพราะเห็นว่าเป็นของเก่า ยังไม่ทันพ้นคืนนั้นเอง คนงานเหล่านั้นบ้างก็เสียสติ บ้างก็เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง บ้างก็มีไข้อย่างเฉียบพลัน คนงานเหล่านั้นจึงนำพระพุทธรูปไปคืนไว้ที่เดิมภายในคืนนั้นทันที หลังจากนั้นอาการป่วยก็หายเป็นปลิดทิ้งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน 3.เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2496-2497 เด็กหญิงชาวบ้านท่าไคร้คนหนึ่งได้ไปอาศัยอยู่กับญาติที่จังหวัดชลบุรี วันหนึ่ง ขณะเธอกำลังขี่จักรยานไปซื้อของ เธอก็ถูกรถสิบล้อชนจนตัวเธอกระเด็นไปตกที่ถนนอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนจักรยานของเธอก็แหลกไปทั้งคัน แต่ตัวเด็กหญิงกลับไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วก็เดินต่อได้สบายๆ ส่วนรถสิบล้อคันนั้นกลับไฟลุกไหม้ทั้งคันเสียอย่างนั้น ว่ากันว่าหนูน้อยคนนี้มีเพียงรูปถ่ายของหลวงพ่ออัดกรอบพลาสติกห้อยคออยู่เท่านั้น 4.เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2511 เด็กสาวบ้านท่าไคร้คนหนึ่งกับน้องสาวเดินทางไปทำธุระที่บ้านดงหมากยางซาก เด็กหญิงทั้งสองถูกโจรจี้เอาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทไป ทั้งสองจึงวิ่งกระหืดกระหอบกลับบ้านเพื่อเล่าเหตุการณ์ให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ของเด็กจึงให้เด็กทั้งสองไปขอหลวงพ่อให้ช่วยติดตามสร้อยคืน 3 วันต่อมา ทุกคนในบ้านแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นสร้อยคอที่ถูกจี้ไปถูกทิ้งไว้อยู่บนระเบียงหน้าบ้านและสร้อยเส้นนั้นยังอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ 5.เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2512-2513 ก่อนที่จะสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันเสร็จ จะมีแสงสว่างปรากฏออกมาจากต้นโพธิ์ข้างโบสถ์และข้ามไปยังบ้านปากบึง ฝั่งประเทศลาว โดยแสงสว่างนี้จะปรากฏ 2-3 เดือนต่อครั้งในวันพระและมักจะมีผู้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง 6.ร้อยเอกคำม้าว จันทวงศ์ ชาวลาว อาศัยอยู่บ้านปากบึงที่อยู่ตรงข้ามหมู่บ้านท่าไคร้ ก่อนไปราชการสงครามทุกครั้ง เขามักมาบนบานกับหลวงพ่อไว้เสมอ โดยเขาประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินถึง 3 ครั้งแต่ก็รอดชีวิตกลับมาทุกครั้งเช่นกัน เขาจึงเกิดศรัทธาในองค์หลวงพ่อจึงได้บริจาคเงินจำนวน 20,000 บาทเพื่อสร้างโบสถ์หลังปัจจุบัน 7.เมื่อปี พ.ศ. 2528 ผู้เขียนได้ประสบกับปาฏิหาริย์จากหลวงพ่อด้วยตนเองหลังจากได้ประชุมกับชาวบ้านและตกลงกันว่าจะจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปหลวงพ่อเพื่ออัดกรอบพลาสติกและนำไปให้ผู้มีศรัทธาเช่าไว้บูชา ก่อนที่ช่างภาพจะถ่ายภาพ เขาได้นำขันข้าวตกแต่งด้วยดอกไม้ไปขอขมาต่อหลวงพ่อ หลังจากที่ถ่ายรูปหลวงพ่อไปกว่า 10 อิริยาบถและนำรูปไปล้างนั้น ผลปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อติดเลยแม้แต่น้อย ฟิล์มทั้งหมดก็มืดสนิท ชัตเตอร์ก็ไม่ลั่นเหมือนกับมีอะไรมาขัดไว้ |
|
|
|
เว็บไซต์ : |
แหล่งที่มาของข้อมูล : http://thai.tourismthailand.org/ |
|
|
|
ที่เที่ยวใกล้เคียง |
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรมใกล้เคียง |
|
|
|
|
|