ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
|
|
|
|
กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ
|
|
ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน > อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน > วัดพระนอน |
|
|
วัดพระนอน |
|
ตั้งอยู่เลขที่ 22 ถนนผดุงม่วยต่อ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองแม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอน 58000 |
|
|
|
|
|
รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว |
วัดพระนอน ตั้งอยู่เลขที่ 22 ถนนผดุงม่วยต่อ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 หมายเลขโทรศัพท์ 053 -611221 หมายเลขโทรเลข 053-620681ตั้งอยู่ใต้เชิงเขาของวัดพระธาตุดอยกองมูด้านหน้าติดถนนผดุงม่วยต่อตรงข้ามวัดก้ำก่อ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนด้านหลังติดเชิงดอยกองมูทิศเหนือติดวัดม่วยต่อ ด้านทิศใต้ติดสนามกีฬากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดพระนอนสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2418 โดยพญาสิงหนาทราชา (นามเดิมว่า ชานกะเล เป็นชาวไทใหญ่ ) เจ้าเมืององค์แรกของแม่ฮ่องสอนตรงกับรัชสมัยราชกาลที่ 5 มูลเหตุที่สร้างองค์พระนอน มี 2 ประการคือ 1. เพื่อเป็นอนุสรณ์ ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน ท่านได้รับพระราชทานนามว่า พญาสิงหนาทราชา เมื่อ พ.ศ. 2417 อีกทั้งเป็นการเฉลิมฉลองในวาระที่หมู่บ้านแม่ฮ่องสอนได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมือง 2. ท่านเป็นผู้เกิดวันอังคารจึงสร้างองค์ไสยาสน์ ( พระนอน) ขึ้นให้เป็นพระประธาน คู่บ้านคู่เมืองให้เป็นที่สักการะกราบไหว้บูชา ของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน แต่ก็สร้างไม่แล้วเสร็จ เพราะเหตุการณ์บ้านเมืองแถวชายแดนไม่คอยสงบเจ้าเมืององค์แรกท่านถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2427 สมัยต่อมาชายาของท่านมีนามว่า เจ้านางเมี๊ยะ ขึ้นครองเมือง เป็นเจ้าเมืององค์ที่ 2 ซึ่ง ท่านจึงสร้างองค์พระนอนยาว 11 เมตร 90เซนติเมตร ต่อจนสำเร็จเรียบร้อย และจัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมกันทั้ง 3 อย่าง คือ 1. องค์พระนอน 2. พระยืนปางห้ามญาติกลาง ภูเขาอยู่ทิศตะวันตกวัดพระนอน 3. ศาลา 9 ห้อง (ปัจจุบันชำรุดแล้ว ) ตรงกับวันเพ็ญเดือน 4 วันที่ 15 เดือน มีนาคม พ.ศ.2430 ได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมด 50 วัดมารับไทยทานในงานฉลองมีการถวายปัจจัยไทยทานแด่ท่านเจ้าอาวาสทั้งหมด 50 วัดมารับไทยทานและถวายให้ วัดละ 50 รูปี และทองคำหนัก 2 สลึง เทียบกับค่าของเงินในปัจจุบันนี้วัดละประมาณ 100,000 บาทถ้วน ( หนึ่งแสนบาทถ้วน)โดยเชิญคณะศรัทธาในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาร่วมในงาน 1,500 คน มีการแจกคู่มือทำวัดภาษาพม่าคนละ 1 เล่ม ในปีเดียวกันช่วงเดือนพฤษภาคมในวันวิสาขบูชาได้นำชาวบ้านก่อเจดีย์ทรายมิ่งเมืองเพื่อเป็นการขอให้ฟ้าฝนตกตามฤดูกาล นับเป็นปีแรก ปี พ.ศ. 2541 เมื่อเสร็จงานเจดีย์ทราย วันวิสาขบูชาแล้ว เจ้าเมืององค์ที่ 2โดยจัดตั้งชื่อว่าวัดพระนอนตามสถานที่องค์พระนอนตั้งประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว เจ้าเมืององค์ที่ 2 จึงนิมนต์ครูบาชมภู ซึ่งเดินทางมาจาก วัดม่วยต่อ อำเภอหมอกใหม่ จังหวัดหลอยแหลม ในรัฐฉาน ประเทศสหภาพพม่า มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดพระนอน วัดพระนอนมีอภินิหารองค์พระนอน คือเมื่อพ.ศ. 2477 หลังคาวิหารพระนอนมุงด้วยสังกะสี เก่าพอสมควร ในฤดูฝนเวลาฝนตกหลังคารั่วไปหมด องค์พระนอนเปียกด้วยน้ำฝนอยู่ตลอดมา ช่วงนั้นข้าวยากหมากแพงชาวบ้านก็ไม่ค่อยสนใจทางวัดเท่าไรนัก เพราะมัวหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ในวิหารจึงเป็นที่พักและที่เล่นของเด็กเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย อยู่มาวันหนึ่งเด็กเลี้ยงวัวเลี้ยงควายมางีบหลับในวิหารขณะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้เห็นว่าองค์พระนอนกำลังจะลุกหนีเพราะฝนตกหนักทนน้ำฝนไม่ไหวเด็กเลี้ยงวัวจึงพากันวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านและบอกกับชาวบ้านว่าให้ไปดูพระนอนเร็วๆ พระนอนจะลุกหนีแล้วกำลังงอขาขึ้น เมื่อชาวบ้านได้ยินก็แห่กันมาที่วัดก็แปลกใจเหมือนพระบาททั้ง 2 ข้างกำลังงอขึ้นจริงไม่เท่ากันเหลื่อมล้ำกันนิดหน่อยพระบาทข้างซ้ายที่ทับข้างขวาสั่นกว่า ถามคนแก่ที่เขามาดูก็พูดว่าเมื่อก่อนพระบาททั้ง 2 ข้างเสมอกันทำไมเดี๋ยวนี้พระบาททั้ง 2 ข้างไม่เสมอกันดังนั้นคระศรัทธาในเมืองพากันหลั่งไหลเข้ามาดูและนมัสการพร้อมได้บริจาคปัจจัยคนละเล็กคนละน้อยคณะกรรมการวัดได้รวบรวมจตุปัจจัยซื้อสังกะสีใหม่มามุงวิหารแทนสังกะสีเก่า ตามที่เล่าเหตุการณ์มานี้ทั้งหมดย่อมเป็นอภินิหารองค์พระนอนนั้นเอง พ.ศ. 2481คณะศรัทธาทุกคนในเขตเทศบาลและนอกเขตพากันหลั่งไหลมาดูและนมัสการ พระนอนมีน้ำตาไหลออกมาจากพระเนตรคล้ายกับร้องไห้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นประมาณ 6 เดือนเศษ ต่อมาไม่กี่ปีก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เดือดร้อนทั่วโลกนี้ก็คืออภินิหารดีองค์พระนอนเตือนสติให้คนเราอย่าให้มีความประมาท พ.ศ. 2486 ประมาณเดือนกันยายนในกลางดึกประมาณ 6 ทุ่มกว่าๆหลังสงครามโลกเกิดขึ้น มีขโมยกลุ่มหนึ่งมาเจาะตรงด้านหลังองค์พระนอนซึ่งประสงค์จะเอาของดีจากองค์พระนอนที่เจ้าเมืององค์ที่ 1 บรรจุไว้มีแก้ว, แหวน, เงิน,ทอง เพราะทราบตามประวัติหรือลายแทงปรากฏว่าของทั้งหมดที่บรรจุตรงหน้าอกพระนอนนั้นขโมยขนไปหมด ซึ่งชาวบ้านได้บรรจุใหม่และปิดไว้เหมือนเดิมปัจจุบันรอยเจาะด้านหลังยังมีปรากฏอยู่ ต่อมาประมาณ 1 ปี พวกขโมยและเครือญาติของเขามีอันเป็นไปหมด วัดพระนอนเป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่าและผสมผสานวัฒนธรรมชาวไทใหญ่รูปทรงหลังคาวัดเป็นแบบ สองคอ สามชายและทรงปานซอยเหมือนวัดพระธาตุดอยกองมู ภายในวัดจะมีองค์พระนอนมีขนาดความยาว 11 เมตร 90 เซนติเมตร และจะมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิและพระทรงเครื่องต่างๆ มีพระบัวเข็ม พระสิวลี รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ภายในห้องเก็บของโบราณก็จะมีหนังสือพระไตรปิฎกและวัตถุโบราณ ถ้วย,โถ,ชามและของใช้สอยของชาวญี่ปุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 รอบๆมีพระพุทธรูปและของเก่าต่างๆ ภายในวัดจะปูพื้นด้วยไม้ หลังคามุงด้วยสังกะสี สีเขียว รอบบริเวณวัดมีศาลาและอ่างน้ำหน้าวัด ข้างวัดเป็นบ่อบัวในสระข้างหน้าวัดจัดกระถางดอกไม้อย่างสวยงามและดอกกล้วยไม้และพื้นสมุนไพร ด้านหลังวัดมีสิงห์คู่สองตัวยืนคู่กัน เชื่อกันว่าชานกะเลและเจ้านางเมี๊ยะเป็นผู้สร้างและตรงกันข้ามจะมีเจดีย์ 2 หลังเป็นศิลปะแบบพม่าข้างในเจดีย์หลังแรกมีพระพุทธรูป 1 องค์และเจดีย์ หลังที่ 2 มีพระพุทธรูปแบบพม่า 4 องค์ ตรงหน้าเจดีย์หลังที่ 2 มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั่งสมาธิอยู่กลางแจ้งไม่มีที่กำบัง |
|
|
|
เว็บไซต์ : |
แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.tourismthailand.org |
|
|
|
ที่เที่ยวใกล้เคียง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรมใกล้เคียง |
|
|
|
|
|