ที่เที่ยวแพร่ > อำเภอเด่นชัย > วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี
อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เด่นชัย แพร่ 54110
รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีนั้น ออกจะเป็นเรื่องแปลก และน่าอัศจรรย์ หากใครได้มาเห็นวัดพระธาตุสุโทน ที่อ.เด่นชัย จ.แพร่ แล้วมีคนบอกว่าทั้งหมดที่เห็นนี้เป็นฝีมือของเจ้าอาวาสที่อายุเพียง 30 กว่าปี ชื่อหลวงพ่อมนตรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าครูบาน้อย บางคนบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ว่าเป็นไปได้ยังไงที่อดีตของพระรูปนี้เป็นลูกชาวนาในพื้นที่ อ.เด่นชัย เคยเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย และเรียนหนังสือแค่ชั้นประถมปีที่ 7 จากนั้นก็ต้องออกด้วยเหตุผลเพราะต้องการบวช จนถึงปี 2521( อายุ 18) ก็เริ่มก่อสร้างวัด จากนั้นอีก 17 ปี ก็แล้วเสร็จและกลายเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ชนิดที่ใครมาเห็นแล้วอาจตื่นตะลึงกับความสวยงาม ว่าไม่เคยเห็นที่ใดจะอลังการเท่าวัดนี้ วัดพระธาตุสุโทน ประกอบพิธีฝังลูกนิมิตเมื่อปี 2540 โดยสมเด็จพระบรมฯเสด็จแทนพระองค์ เป็นที่ปลาบปลื้มให้กับประชาชนชาวอำเภอเด่นชัย และชาวจังหวัดแพร่เป็นอย่างยิ่งวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี เป็นวัดที่สวยงามตามลักษณะของสถาปัตยกรรมล้านนาแบบผสมผสาน ที่หลวงพ่อมนตรีได้จำลองรูปแบบมาจากวัดสำคัญๆของภาคเหนือ และจากประเทศอื่นได้แก่ พม่า จีน และลาว โดยเลือกเอา จุดเด่นของแต่ละแห่งมารวบรวมไว้ที่วัดนี้ เป็นการผสมผสานที่ลงตัว ทำให้มีลักษณะต่างจากวัดทั่วไป นอกจากจะนำเอาสุดยอดงานด้านพุทธศิลป์ของล้านนา ที่มีชื่อเสียงมารวมกันไว้ที่เดียวแล้ว ยังระดมช่างฝีมือชั้นยอดที่เรียกว่า"สล่า"ของภาคเหนือมาร่วมกัน ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ โดยมีหลวงพ่อมนตรีควบคุม ออกแบบ และลงมือก่อสร้างด้วยตัวเองในส่วนที่เป็นงานชิ้นสำคัญๆ บ่อยครั้งที่มีผู้พบเห็นหลวงพ่อกำลังทำงานบนนั่งร้านหลังคาโบสถ์ หรือกำลังปั้นโครงพระพุทธรูปก่อนที่จะให้ช่างฝีมือดำเนินการต่อ ความสามารถในงานพุทธศิลป์ ได้รับการกล่าวขานจากผู้พบเห็นเป็นอันมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรก็เคยมาเห็น และต่างทึ่งในฝีมือเป็นอันมาก โดยเฉพาะการเขียนลวดลายต่างๆ ไม่มีต้นแบบ ไม่มีแบบร่าง เมื่อจรดดินสอบนกระดาษก็วาดลายได้ทันที ต่างกับหลักการร่างลายไทยโดยทั่วๆไป หลวงพ่อมนตรีมีความรู้ในเชิงช่างมาจากไหน และทำไมถึงเก่งขนาดนี้..... ประวัติ หลวงพ่อมนตรี เดิมชื่อเด็กชายมนตรี บุญมี เกิด พ.ศ. 2503 มีความสนใจ พุทธศาสนา และสนใจงานปั้นมาแต่เด็ก ชอบปั้นพระมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เมื่ออายุได้ 9 ปี เคยปั้นพระหน้าตักกว้าง 3 ศอก ไว้กลางทุ่งนาแถวบ้านป่าหวาย อ.เด่นชัย โดยใช้เวลาปั้นแค่วันเดียว เมื่อบวชเรียนก็ศึกษางานปั้นจากช่างอาวุโส ที่สอนหล่อพระหล่อระฆัง จากคุณตาหมื่น บุญยเวทย์ วัย 85 และคุณตาอยู่คะณา วัย 80 ปี จากบ้านเตว็จ จังหวัดสุโขทัย จากนั้นก็ได้รับการถ่ายทอดการ ปั้นพระและสร้างวิหาร จากครูบาคัมภีระปัญญา วัดเฟือยลุง จ.น่าน การสร้างวัด หลวงพ่อมนตรี ได้นำเอาจุดเด่นของวัดหลายแห่งมาประยุกต์ไว้ที่วัดนี้ จากการ ได้ตระเวนตามวัดต่างๆทางภาคเหนือและดินแดนล้านนาในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมืองเชียงตุง พม่า และจากประเทศลาว เพื่อศึกษารูปแบบของ ศิลปะล้านนาที่บรรพบุรุษได้สรรสร้างไว้ ทั้งงานปั้น งานแกะสลัก รวมทั้ง จิตกรรมฝาผนัง พร้อมกันนี้ก็ได้เสาะหาช่างฝีมือเอกของล้านนามาร่วมงาน สร้างวัดพระธาตุสุโทน บนที่ดิน 25 ไร่ ของดอยม่อนทองที่ได้รับการบริจาคจากชาวบ้าน ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ปลูกฝ้ายมาก่อน สุดยอดของศิลปะล้านนาจำนวนถึง11 แห่ง ที่นำมาประยุกต์สร้างโบสถ์วิหาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดพระธาตุสุโทน ได้แก่ ซุ้มประตูด้านหน้าโบสถ์ จากวัดพระธาตุลำปางหลวง ซุ้มประตูด้านตะวันออก จากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซุ้มประตูด้านตะวันตก จากวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทร์ซึ่งวัดนี้สร้าง จากช่างฝีมือเชียงใหม่ที่พระเจ้าชัยเชษฐาธิราชแห่งลาวเป็นผู้นำไปสร้าง ฐานพระอุโบสถรูปซิกแซก จากวังประทับพระยามังราย จ.เชียงราย ประตูและหน้าต่างลวดลายแกะสลัก จากวิหารลายคำวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ ปั้นลมลวดลายเก่าศิลปะทางเหนือ- จากวัดต้นเกวน อ.สเมิง เชียงใหม่ นาค 7 เศียร แบบขอม / นางอัปสรปูนปั้น จากวัดเจ็ดยอด เชียงใหม่ หอไตร จากวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ หอระฆัง จากวัดพระธาตุหริภูญชัย กุฏิหลังใหญ่สร้างจากไม้สักทอง- บ้านไทยสิบสองปันนาประเทศจีน และพระบรมธาตุ 30 ทัส ศิลปะเชียงแสน จากวัดพระธาตุนอ(หน่อ) ของพระชนกพระเจ้าเม็งรายมหาราช จากแคว้นสิบสองปันนานั่นเองสำหรับการเดินทางวัดอยู่ติดถนนทางหลวงหมายเลข 101 ห่างจากตัวอำเภอเด่นชัยเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ที่เที่ยวใกล้เคียง
โรงแรมใกล้เคียง